เที่ยวตราดทุกฤดู…สู่ประเทศเพื่อนบ้าน

lovetratallseason

เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตราดทาวน์หรือเจ้าบ้านพา เที่ยวตราด ได้รับเชิญจากทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ให้เข้าร่วมโครงการ แรลลี่เปิดเส้นทางคลองใหญ่สู่อินโดจีน “ตราด…รักทุกฤดู” ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่คือ คลองใหญ่ จ.ตราด ถึง เกาะกง กัมพูชา โดยใช้กิจกรรมแรลลี่สำรวจเส้นทาง พร้อมกันนี้ยังได้เชิญเหล่าสื่อและ Blogger มาเก็บข้อมูลและไปเผยแพร่ความประทับใจในทริปนี้ ซึ่งทางเราไปในฐานะ Agency ที่ไปดูเส้นทางเพื่อเก็บข้อมูลไปใช้ในการจัดการพานักท่องเที่ยวไปในเส้นทางนี้ต่อไป

DAY 1

เส้นทางนี้เริ่มต้นที่กรุงเทพมหานครโดยคณะแรลลี่จะออกจากบ้านมารวมตัวกันที่จังหวัดตราดในเวลา 10:00 โดยประมาณ ณ ศาลากลาง จังหวัดตราด มีผู้ว่าราชการ จังหวัดตราด ทำพิธิเปิดและกล่าวถึงที่มาของโครงการ ซึ่งในขณะที่ท่านผู้ว่าได้กล่าวก็มีการพูดถึงโครงการต่างๆ มากมายที่น่าสนใจ ซึ่งอยากให้ทุกคนลุ้นกันว่าจะมีกิจกรรมอะไรให้เราได้ติดตามและท่องเที่ยวกัน หลังจากพิธีเปิดเสร็จสิ้นแล้ว ก็มีการปล่อยขบวนรถมุ่งหน้าสู่อำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด เป็นการเริ่มกิจกรรมแรลลี่อย่างแท้จริง

lovetratallseason

ก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิท สำหรับเราชาว Blogger แอบมาแวะทานอาหารเที่ยงกันก่อนเดินทาง โดยเราเข้าไปชิมร้านก๋วยเตี๋ยวปู สุขุมวิทเจ้าดังของจังหวัดตราด เมนูที่นี่มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล ข้าวทะเลพริกเกือ ทะลวกจิ้มและอีกมากมาย เมนูทะเลของที่นี่จะมีกั๊งไปผสมด้วย ซึ่งกั๊งเป็นอาหารทะเลชื่อดังของจังหวัดตราด ที่ใครมาก็ต้องลิ้มลอง

อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นสถานที่แรกในเส้นทางนี้ อำเภอนี้มีเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา และมีชายหาดมากมายหลากหลายแห่ง มีรีสอร์ทที่พักเรียงราย และมีร้านอาหารทะเลสดๆ มากมาย ให้เราได้ท่องเที่ยวกัน สำหรับครั้งนี้เราเลือกไปที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม หาดราชการุณณ์ เขาล้านและหาดบานชื่น

ศาลเจ้าแม่ทับทิม เป็นศาลรูปแบบจีนที่ตั้งอยู่ใน อ.คลองใหญ่ ใกล้สะพานท่าเรืออเนกประสงค์ ศาลนี้เป็นสถานที่สักการะของชาวบ้านชาวประมง เพื่อมาขอพรให้ท่านเจ้าแม่ช่วยปกปักรักษาผู้คนในหมู่บ้าน ทั้งเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ต่างๆ เราได้ขับรถเลยสถานที่ท่องเที่ยวของเราเพื่อมารับน้องไกด์ท้องถิ่นที่นี่และน้องไกด์ก็แนะนำพาเรามาสักการะศาลเจ้าแม่ทับทึมก่อน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่การเดินทาง

หาดราชการุณณ์ เขาล้าน อ.คลองใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตของศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน ซึ่งเมื่อก่อนที่นี่เป็นที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเป็นศูนย์สภากาชาดไทยเขาล้าน เพื่อช่วยเหลือชาวเขมรอพยพ จนเมื่อชาวเขมรอพยพแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาเสร็จแล้วศูนย์แห่งนี้ก็ปิดไป และถูกสร้างใหม่เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องราวการอพยพเหล่านี้ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลในการศึกษาประวัติศาสตร์ต่อไป ส่วนหาดทรายของที่นี่นั้นจะมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ หาดนี้เป็นอีกหนึ่งหาดที่สามารถพบแมงกระพรุนหลากสีช่วงหน้าหนาวได้เช่นกัน

หาดบานชื่น อยู่ถัดจากหาดราชการุณณ์ หาดนี้มีชื่อเสียงมากเพราะทรายของหาดนี้ละเอียดที่สุดในภาคตะวันออก อันเนื่องมาจากในเนื้อทรายมีส่วนผสมของแร่เซลิก้าอยู่ เช่นนี้จึงทำให้ที่นี่มีหาดทรายที่ขาวและละเอียด สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ มีร้านอาหารทะเลตั้งเรียงรายรสชาตอร่อยหลายๆ ร้าน ที่นี่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก

หลังจากที่เราได้ท่องเที่ยวทั้งสองหาดเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าพักที่รีสอร์ท 2 แห่งคือพบทะเล รีสอร์ท และแมงโกรฟบีช รีสอร์ท ทั้งสองรีสอร์ทนี้ติดหาดและห้องพักดีมาก อยากแนะนำให้คนที่ไปเที่ยวย่านนี้ได้ใช้บริการของทั้งสองรีสอร์ทนะครับ

DAY 2

วันนี้เราจะเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านกันเส้นทางที่เราจะผ่านในวันนี้คือ ส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย จุดผ่านแดนหมู่บ้านหาดเล็ก เกาะกง น้ำตาไต และป่าชายเลนบางคะยัก

ส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย ที่นี่ทำให้เรางงกันไปหลายคนเพราะว่าจากความรู้เก่าคือส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทยต้องอยู่ที่ คอคอดกระ จ.ประจวบคีรีขันต์ แต่จริงๆแล้ว คอคอดกระ จ.ประจวบคีรีขันต์นั้นเป็นส่วนที่แคบที่สุดใน “คาบสมุทรมหายู” สำหรับส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทยจริงๆแล้วอยู่ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด  ระยะทางวัดจากชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกจรดทิวเขาบรรทัดซึ่งแนวพรมแดนธรรมชาติกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา วัดระยะทางได้ 450 ม. หรือ 0.45 ก.ม.

จุดผ่านแดนหมู่บ้านหาดเล็ก ที่นี่เป็นหมู่บ้านสองชนชาตก็ว่าได้เพราะคนที่นี่ส่วนหนึ่งก็มาจากกัมพูชาและส่วนหนึ่งก็เป็นคนไทยสำหรับการผ่านแดนนั้น passport ก็สามารถเอา passport ไปยื่นได้เลย แต่ใครที่ไม่มีจะต้องทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวแทน โดยบัตรผ่านแดนชั่วคราวจะต้องไปเช้าและกลับภายในวันนั้นไม่เกิน 4 ทุ่ม ส่วนบริเวณนี้ก็มีของขายมากมาย โดยส่วนตัวชอบมากที่สุดก็คือขนมปังเขมร ซึ่งจริงๆอาจจะเป็นขนมปังฝรั่งเศสเนี่ยแหละ แต่ว่าคนแถวนี้จะเรียกขนมปังเขมรแล้วเค้าก็มีใส้ให้ใส่อร่อยมาก

เกาะกงหรือปัจจันตคิรีเขตร เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศกัมพูชา ที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ที่นี่เป็นจังหวัดคู่แฝดกับประจวบคีรีขันต์ หากนั่งเรือตรงมาตามเส้นละติจูดเดียวกันที่ประจวบฯ ท่านจะมาถึงที่เกาะกงพอดี (ไกด์ชอบพูด) ชาวเกาะกงที่นี่มีทั้งเชื้อสายเขมรและไทย สามารถพูดภาษาไทยและใช้เงินไทยได้

ร้านอาหาร Café Laurent” ที่นี่เป็นร้านอาหารผสมระหว่างกัมพูชาและฝรั่งเศส โดยเขามีเมนูแนะนำซึ่งแจ้งทางเราว่าเป็นเมนูที่ฝรั่งเศสทิ้งเหลือไว้ให้คือ “ฬกฬัก” อ่านว่า ลก-ลัก โดยมีเนื้อตุ๋นพร้อมด้วยไข่ดาว เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ รสชาติอร่อยมาก แต่เมนูที่เราติดใจมากๆ คือไข่เจียวปลาเค็มชอบ ซึ่งจะคล้ายไข่เจียวหมูสับแต่เปลี่ยนเป็นปลาเค็มแทน ตอนทานท่านก็จะได้กลิ่นปลาเค็มทอดหอมๆ ซึ่งรสชาติเค็มๆของปลาเค็มนั้นก็เข้ากับไข่เจียวมากๆ และนี่คืออาหารเที่ยงของเราครับ

น้ำตกตาไต เป็นนำ้ตกขนาดใหญ่ติดกับแม่น้ำตาไต การเกิดน้ำตกนี้จริงๆ แล้วเป็นแม่น้ำตาไตที่มีความต่างระดับกันจนเกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามขึ้นมานั่นเอง เราใช้เวลาเดินทางจากร้านอาหาร Café Laurent ประมาณ 30 นาทีก็จะถึงสถานที่ลงเรือไปชมน้ำตก บรรยากาศระหว่างล่องเรือนั้นที่ลงเรือนั้นเงียบสงบ ซึ่งเราชอบมากๆ เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นแต่สีเขียวของต้นไผ่ริมแม่น้ำและความนิ่งเงียบของสายน้ำตาไต ซึ่งทำให้เราคิดเพลินนั่งเพลินไปได้เรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเราก็พบกับน้ำตกขนาดใหญ่และสวยมากอยู่ด้านหน้า ซึ่งก็คือน้ำตกตาไตที่เราเดินทางมาหามันนั่นเอง

ป่าชายเลนบางคายัค ป่าโกงกางที่ใหญ่ทีสุดเอเชียมีเนื้อที่ 25,000 ไร่ ที่นี่เป็นป่าชายเลนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมากและมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจและชื่นชมความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ เราเดินทางจากน้ำตกตาไตมายังที่นี่ใช้เวลาอีก 30 นาที จากนั้นทางไกด์ได้จัดเรือเพื่อใช้ในการชมความยิ่งใหญ่ของป่าชายเลนแห่งนี้ ระหว่างทางเราจะเห็นชาวบ้านมาทำประมงหาปลาหาหอยนางรมกันสดๆ ภายในป่าชายเลนแห่งนี้ ซึ่งเป็นภาพที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของการมีป่าชายเลนขนาดใหญ่แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน

สำหรับคืนที่สองนี้เราพักที่โรงแรมเกาะกง ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวใกล้กับชายแดน ภายในโรงแรมนี้มี Duty Free และคาสิโนแบบถูกกดหมายไว้บริการด้วย ใครชอบแบบไหนก็ลองเลือกสัมผัสกันดูครับ

DAY 3

วันนี้เป็นสิ้นสุดกิจกรรมครับ ทางเราและคณะแรลลี่จะแยกจากกัน โดยทาง Blogger จะเดินทางไปเกาะกูดพร้อมกับเราตราดทาวน์ด้วย ส่วนคณะแรลลี่จะกลับบ้านกันแล้วครับ

สำหรับ 3 วัน 2 คืนที่ผ่านทางเราตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตอนที่ได้ไปท่องเที่ยวในเกาะกง ประเทศกัมพูชา พอได้เห็นน้ำตกตาไต ป่าชายเลนคะยัค วิธีชีวิตของคนที่นั้นก็ทำให้ทริปนี้แปลกใหม่และประทับใจมากๆ และแน่นอนทริปแบบนี้จะเกิดขึ้นแน่กับนักท่องเที่ยวที่สนใจทุกท่านรอติดตามไปพร้อมๆกันนะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *